เมนู

ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ ดิฉันได้เอาดอก
ไม้บูชาใด ด้วยการบูชานั้น ดิฉันจึงไม่รู้จักทุคติ
เลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า ดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระสัตตอุปลมาลิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสัตตอุปลมาลิกาเถรีอปทาน

ปัญจทีปิกาเถรีอปทานที่ 9 (9)



ผลของการถวายประทีป 5 ดวง



[149] ครั้งนั้น ดิฉันเป็นหญิงท่อง-
เที่ยวอยู่ในพระนครหังสวดี ดิฉันต้องการกุศล
จึงเที่ยวไปสู่อารามหนึ่งจากอารามหนึ่ง ได้พบไม้
โพธิ์อันอุดมในวันกาฬปักษ์ ยังจิตให้เลื่อมใสใน
ไม้โพธิ์นั้นแล้ว นั่งลงที่โคนไม้โพธิ์
ดิฉันตั้งจิตเคารพประนมอัญชลีเหนือ
เศียรเกล้า สำแดงความโสมนัสแล้วคิดอย่างนี้ใน
ขณะนั้นว่า
ถ้าพระพุทธเจ้ามีพระคุณนับไม่ได้ ไม่มี
บุคคลเปรียบเสมอไซร้ ก็ขอให้ทรงแสดงปาฎิ-

หาริย์แก่เราเถิด ขอไม้โพธิ์จงเปล่งรัศมี ทันใด
นั้นเอง ไม้โพธิ์ก็ได้โพลงไปทั่วพร้อมกับที่ดิฉัน
นึก รัศมีสำเร็จด้วยสีทองล้วนไพโรจน์ไปทั่วทิศ
ดิฉันนั่งลงอยู่ที่โคนโพธิ์นั้น 7 คืน 7 วัน
เมื่อถึงวันเป็นวันคำรบ 7 ดิฉันได้ทำการบูชาด้วย
ประทีป
ประทีป 5 ดวงลุกโพลงย่อมล้อมรอบอาสนะ
ครั้งนั้น ประทีปของดิฉันลุกโพลงอยู่ จนถึงเวลา
พระอาทิตย์อุทัย.
เพราะกรรมทีทำไว้ดีนั้น และเพราะการ
ตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไป
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
วิมานที่บุญกรรมสร้างให้ดิฉันอย่างสวย-
งามในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น เรียกว่า "ปัญจทีป-
วิมาน" ปัญจทีปวิมานนั้นสูง 100 โยชน์ กว้าง
60 โยชน์
ประทีปนับไม่ถ้วนส่องสว่างล้อมดิฉัน อยู่
ทั่วเทพพิภพโชติช่วงด้วยแสงประทีป
คนที่หันหน้าไปทางทิศบูรพา ถ้าดิฉัน
ปรารถนาที่จะดู ดิฉันย่อมเห็นได้ด้วยจักษุทุกคน
ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง และเบื้องขวาง

ดิฉันปรารถนาจะเห็นกรรมดีและกรรมชั่ว
ที่คนทำในที่มีประมาณเท่าใด ที่มีประมาณเท่านั้น
ย่อมไม่มีต้นไม้หรือภูเขามากั้นกาง
ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าว
สักรินทเทวราช 80 พระองค์ ได้เป็นอัครมเหสี
ของพระเจ้าจักรพรรดิ 100 พระองค์
ดิฉันเข้าถึงกำเนิดนั้น ๆ ประทีปตั้ง
แสน ๆ ส่องแสงล้อมดิฉัน
ดิฉันจุติจากเทวโลกแล้ว เกิดในครรภ์
มารดา เมื่อดิฉันอยู่ในครรภ์มารดา จักษุของ
ดิฉันไม่หลับ
ประทีปทั้งจำนวนแสนดวง ส่องสว่าง
อยู่ในเรือนประสูติของดิฉันผู้พร้อมเพรียงด้วยบุญ
กรรม นี้เป็นผลแห่งประทีป 5 ดวง
เมื่อถึงภพสุดท้าย ดิฉันกลับฉันทะที่มี
ในใจ เห็นนิพพานอันเป็นสภาวะเยือกเย็น ไม่มี
ชราและมรณะ
พอเกิดได้อายุ 7 ขวบ ดิฉันได้บรรลุ
อรหัต พระพุทธเจ้าพระนามว่า โคดม ทรงทราบ
ถึงคุณของดิฉัน จึงให้ดิฉันอุปสมบท

ดิฉันเข้าฌานอยู่ในมณฑป โคนไม้
ปราสาท ถ้ำ หรือเรือนอันว่างเปล่าก็ดี ประทีป
5 ดวงส่องแสงสว่างให้ดิฉัน
ทิพยจักษุของดิฉันบริสุทธิ์ ดิฉันฉลาด
ในสมาธิ ถึงความบริบูรณ์ในอภิญญา นี้เป็นผล
แห่งประทีป 5 ดวง
ดิฉันเป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์ทั้งปวง ทำ
กิจเสร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ ข้าแต่พระมหาวีระผู้มี
พระจักษุ หม่อมฉันชื่อว่าปัญจทีปา ขอถวาย
ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ ดิฉันได้ถวาย
ประทีปใด ในครั้งนั้น ด้วยการถวายประทีปนั้น
ดิฉันไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งประทีป 5
ดวง
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า ดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระปัญจทีปิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบปัญจทีปิกาเถรีอปทาน.

อุทกทายิกาเถรีอปทานที่ 10 (10)



ผลของการถวายน้ำ



[150] ดิฉันเป็นหญิงหาบน้ำขายอยู่ใน
พระนครพันธุมดี เลี้ยงชีพด้วยการหาบน้ำ เลี้ยง
ดูเด็ก ๆ ก็ด้วยการหาบน้ำนั้น
ก็ดิฉันไม่มีไทยธรรม ดิฉันเข้าไปยังซุ้ม
น้ำแล้ว ตั้งน้ำไว้ถวายในบุญเขตอันยอดเยี่ยม
เพราะกรรมที่ได้ทำไว้ดีแล้วนั้น ดิฉันจึง
ได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ วิมานที่บุญกรรมสร้าง
ให้แก่ดิฉันอยู่สวยงาม ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น
ถูกนิรมิตรขึ้นก็เพราะการหาบน้ำ
ครั้งนั้น ดิฉันประเสริฐกว่าพวกนาง
อัปสรตั้งพัน ดิฉันครอบงำนางอัปสรเหล่านั้น
ทั้งหมดด้วยฐานะ 10 ประการ
ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าวสัก-
รินทเทวราช 50 พระองค์ ได้เป็นพระอัครมเหสี
ของพระเจ้าจักรพรรดิ 20 พระองค์
ดิฉันท่องเที่ยวอยู่แต่ในสองภพ คือ
เทวดาและมนุษย์ ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง
การถวายน้ำ.